คู่มือสร้างตู้เสื้อผ้าที่ไม่เหมือนใครและยั่งยืนด้วยของวินเทจและของมือสอง พบกับเคล็ดลับการเลือกซื้อ การจัดสไตล์ และการดูแลรักษาเสื้อผ้าชิ้นโปรดของคุณ
สไตล์ที่คัดสรร: สร้างตู้เสื้อผ้าเหนือกาลเวลาด้วยของวินเทจและของมือสอง
ในโลกของแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็วและเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เสน่ห์ของเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองกลับยิ่งแข็งแกร่งกว่าที่เคย มันมอบโอกาสในการสร้างสรรค์สไตล์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร การเปิดรับความยั่งยืน และการเชื่อมต่อกับประวัติศาสตร์แฟชั่น คู่มือนี้จะให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสร้างตู้เสื้อผ้าเหนือกาลเวลาด้วยของวินเทจและของมือสอง ตั้งแต่การเลือกซื้อไปจนถึงการจัดสไตล์และการดูแลรักษา
ทำไมต้องเลือกของวินเทจและของมือสอง?
มีเหตุผลมากมายที่น่าสนใจในการนำของวินเทจและของมือสองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตู้เสื้อผ้าของคุณ:
- ความยั่งยืน: แฟชั่นที่ผลิตเร็วขายเร็ว (Fast fashion) เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกเสื้อผ้ามือสองช่วยลดความต้องการในการผลิตใหม่ อนุรักษ์ทรัพยากร และลดขยะสิ่งทอ
- ความไม่เหมือนใคร: ของวินเทจและของมือสองเปิดโอกาสให้คุณได้พบกับเสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำใครและมีเพียงชิ้นเดียว ซึ่งคุณจะไม่พบที่ไหนอีก สิ่งนี้ช่วยให้คุณแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองและสร้างสไตล์ที่เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
- คุณภาพและฝีมือการผลิต: เสื้อผ้าวินเทจจำนวนมากผลิตขึ้นด้วยวัสดุและเทคนิคการตัดเย็บที่เหนือกว่าเสื้อผ้าที่ผลิตในปริมาณมากในปัจจุบัน มักมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและเนื้อผ้าที่ทนทานซึ่งสามารถใช้งานได้นานหลายปี
- ราคาที่เข้าถึงได้: เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองมักมีราคาที่ย่อมเยากว่าการซื้อของใหม่ ทำให้คุณสามารถสร้างตู้เสื้อผ้าที่มีสไตล์ได้ในงบประมาณที่จำกัด
- ประวัติศาสตร์แฟชั่น: การสวมใส่เสื้อผ้าวินเทจเชื่อมโยงคุณเข้ากับอดีตและช่วยให้คุณได้สัมผัสกับวิวัฒนาการของแฟชั่นโดยตรง
การเลือกซื้อของวินเทจและของมือสอง: จะหาสมบัติของคุณได้จากที่ไหน
การค้นหาเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองที่ใช่ต้องอาศัยความอดทน ความพากเพียร และสายตาที่เฉียบแหลม นี่คือแหล่งที่ดีที่สุดในการตามล่าหาสมบัติของคุณ:
ร้านขายของมือสอง (Thrift Stores)
ร้านขายของมือสอง ซึ่งมักดำเนินการโดยองค์กรการกุศลหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เป็นจุดเริ่มต้นสุดคลาสสิก ร้านเหล่านี้มีเสื้อผ้าหลากหลายประเภทในราคาที่ย่อมเยามาก คุณอาจต้องใช้เวลาในการค้นหาตามราวแขวน แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็คุ้มค่า ลองไปเยี่ยมชมร้านขายของมือสองในย่านต่างๆ หรือแม้แต่เมืองต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจอของที่ไม่เหมือนใคร มองหาร้านเชนที่เป็นที่รู้จัก เช่น Goodwill (อเมริกาเหนือ), Oxfam (สหราชอาณาจักรและทั่วโลก) และร้านการกุศลท้องถิ่นขนาดเล็กในพื้นที่ของคุณ
ตัวอย่าง: ในลอนดอน สหราชอาณาจักร ย่านอย่างน็อตติ้งฮิลล์และชอร์ดิตช์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องร้านค้าการกุศลที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งมีทั้งของวินเทจระดับไฮเอนด์และตัวเลือกในราคาที่ย่อมเยา
ร้านขายของวินเทจ (Vintage Stores)
ร้านขายของวินเทจเป็นร้านบูติกเฉพาะทางที่คัดสรรและจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจที่ผ่านการเลือกมาอย่างดี โดยทั่วไปแล้วจะมีสินค้าคุณภาพสูงกว่าและมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ประณีตกว่าร้านขายของมือสอง แต่ราคาก็มักจะสูงกว่าเช่นกัน ร้านเหล่านี้มักเชี่ยวชาญในยุคหรือสไตล์ที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลล่วงหน้าเพื่อหาร้านที่ตรงกับรสนิยมส่วนตัวของคุณ
ตัวอย่าง: ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ย่านอย่างฮาราจูกุและชิโมคิตะซาวะมีชื่อเสียงในด้านร้านขายของวินเทจที่หลากหลาย ตอบสนองต่อวัฒนธรรมย่อยและความงามทางแฟชั่นที่แตกต่างกัน
ตลาดนัดและงานของเก่า (Flea Markets and Antique Fairs)
ตลาดนัดและงานของเก่าอาจเป็นขุมทองสำหรับเสื้อผ้าวินเทจ เครื่องประดับ และจิวเวลรี่ มักมีผู้ขายหลากหลายที่นำเสนอสินค้าจากยุคและสไตล์ที่แตกต่างกัน เตรียมพร้อมที่จะต่อรองราคา
ตัวอย่าง: ตลาด Marché aux Puces de Saint-Ouen ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในตลาดนัดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีเสื้อผ้าวินเทจและเครื่องประดับให้เลือกมากมาย
ตลาดออนไลน์ (Online Marketplaces)
ตลาดออนไลน์อย่าง Etsy, eBay, Depop และ Poshmark เป็นวิธีที่สะดวกในการเลือกซื้อเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองจากที่บ้านของคุณเอง คุณสามารถกรองการค้นหาตามขนาด สไตล์ ยุค และช่วงราคาได้ อย่าลืมตรวจสอบคำอธิบายสินค้า รูปภาพ และรีวิวผู้ขายอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
เคล็ดลับ: ใช้คำค้นหาที่เฉพาะเจาะจงเมื่อค้นหาออนไลน์ เช่น "ชุดเดรสยุค 1950", "กางเกงยีนส์ Levi's วินเทจ" หรือ "ผ้าพันคอผ้าไหม"
ร้านฝากขาย (Consignment Shops)
ร้านฝากขายจะจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับมือสองสภาพดีในนามของบุคคลทั่วไป โดยปกติแล้วจะมีสินค้าคุณภาพสูงกว่าร้านขายของมือสองทั่วไป และสินค้ามักจะผ่านการคัดสรรมาแล้ว ร้านฝากขายเป็นแหล่งที่ดีในการหาของวินเทจแบรนด์เนมหรือระดับไฮเอนด์ในราคาลดพิเศษ
การขายของจากบ้าน (Estate Sales)
Estate sales คือการขายที่จัดขึ้นที่บ้านส่วนตัวเพื่อขายทรัพย์สินของผู้ที่เสียชีวิตหรือผู้ที่กำลังย้ายบ้านให้เล็กลง ที่นี่อาจเป็นขุมทรัพย์ของเสื้อผ้าวินเทจ เครื่องประดับ และของใช้ในบ้าน การขายของจากบ้านมักจะทำให้เราได้เห็นภาพอดีตและเป็นโอกาสในการค้นหาของที่ไม่เหมือนใครและมีคุณค่าทางใจ
สิ่งที่ต้องมองหา: การระบุคุณภาพของของวินเทจและของมือสอง
การรู้ว่าต้องมองหาอะไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการช้อปปิ้งของวินเทจและของมือสองให้ประสบความสำเร็จ นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:
เนื้อผ้า
ใส่ใจกับส่วนประกอบของเนื้อผ้าอย่างใกล้ชิด เส้นใยธรรมชาติ เช่น คอตตอน ลินิน ไหม ขนสัตว์ และหนัง โดยทั่วไปจะมีความทนทานและระบายอากาศได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์ มองหาผ้าคุณภาพสูงที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและตัดเย็บอย่างดี ตรวจสอบร่องรอยการสึกหรอ เช่น สีซีด การเป็นขุย หรือรู เรียนรู้ที่จะระบุประเภทผ้าต่างๆ และลักษณะเฉพาะของมัน
การตัดเย็บ
ตรวจสอบโครงสร้างของเสื้อผ้าเพื่อหาร่องรอยของงานฝีมือที่มีคุณภาพ มองหาตะเข็บที่ตรง การเย็บที่เสริมความแข็งแรง และรายละเอียดที่เก็บงานอย่างดี ตรวจสอบกระดุมที่หายไป ซิปที่เสีย หรือชายผ้าที่หลุดลุ่ย ใส่ใจกับซับใน กระเป๋า และรายละเอียดอื่นๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพโดยรวมของเสื้อผ้าได้
ขนาด (Fit)
ขนาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงเสื้อผ้าวินเทจและของมือสอง ขนาดของเสื้อผ้าวินเทจอาจแตกต่างจากขนาดสมัยใหม่ ดังนั้นควรลองสวมก่อนซื้อ หรือวัดขนาดให้แม่นยำ พิจารณาการแก้ทรงเพื่อให้ได้ขนาดที่พอดี อย่ากลัวที่จะซื้อของที่ใหญ่เกินไปเล็กน้อย เพราะมักจะสามารถนำไปแก้ให้พอดีกับรูปร่างของคุณได้ มองตามความเป็นจริงเกี่ยวกับรูปร่างของคุณและสไตล์ที่จะส่งเสริมรูปร่างของคุณ
สภาพ
ตรวจสอบเสื้อผ้าอย่างละเอียดเพื่อหาร่องรอยความเสียหาย เช่น คราบ รู รอยขาด หรือกลิ่น ข้อบกพร่องเล็กน้อยมักจะสามารถซ่อมแซมได้ แต่ความเสียหายที่รุนแรงอาจทำให้เสื้อผ้าไม่สามารถสวมใส่ได้ ประเมินความสามารถในการซ่อมแซมหรือฟื้นฟูเสื้อผ้าวินเทจตามความเป็นจริง คำนวณค่าซ่อมแซมเข้าไปในราคาของเสื้อผ้าด้วย
สไตล์และยุคสมัย
พัฒนารสนิยมสไตล์ส่วนตัวของคุณและยุคแฟชั่นที่คุณชื่นชอบ ค้นคว้าเกี่ยวกับช่วงเวลาแฟชั่นต่างๆ และเรียนรู้ที่จะระบุลักษณะสำคัญของแต่ละยุค สิ่งนี้จะช่วยให้คุณจำกัดการค้นหาและหาชิ้นที่ตรงกับความงามในแบบของคุณได้ พิจารณาว่าสไตล์วินเทจสามารถนำมาผสมผสานกับตู้เสื้อผ้าสมัยใหม่ของคุณได้อย่างไร
ป้ายยี่ห้อ (Label)
ป้ายยี่ห้อสามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด ดีไซเนอร์ และยุคของเสื้อผ้าได้ ค้นคว้าเกี่ยวกับป้ายยี่ห้อวินเทจเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ และประวัติของพวกเขา ระวังป้ายปลอมและรูปแบบอื่นๆ ของการบิดเบือนข้อมูล ป้ายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมักบ่งบอกถึงคุณภาพและความใส่ใจในรายละเอียดที่สูงกว่า
การจัดสไตล์ของวินเทจและของมือสอง: การสร้างลุคที่ดูกลมกลืน
การจัดสไตล์เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเต็มใจที่จะทดลอง นี่คือเคล็ดลับบางประการในการสร้างลุคที่ดูกลมกลืนและมีสไตล์:
ผสมผสาน (Mix and Match)
อย่ากลัวที่จะผสมผสานของวินเทจกับเสื้อผ้าสมัยใหม่ สิ่งนี้จะสร้างลุคที่ไม่เหมือนใครและหลากหลายซึ่งสะท้อนสไตล์ส่วนตัวของคุณ จับคู่ชุดเดรสวินเทจกับรองเท้าผ้าใบสมัยใหม่ หรือเบลเซอร์มือสองกับกางเกงยีนส์ร่วมสมัย ทดลองกับพื้นผิว สี และลวดลายที่แตกต่างกันเพื่อสร้างความน่าสนใจทางสายตา
ใช้เครื่องประดับ
เครื่องประดับเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้ทุกลุคสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจัดสไตล์เสื้อผ้าวินเทจและของมือสอง เพิ่มเครื่องประดับวินเทจ ผ้าพันคอ หมวก หรือเข็มขัดเพื่อเสริมลุคของคุณ เลือกเครื่องประดับที่เข้ากับสไตล์และยุคของเสื้อผ้า อย่ากลัวที่จะผสมเครื่องประดับวินเทจและสมัยใหม่
การตัดเย็บและแก้ทรง
ช่างตัดเสื้อคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณเมื่อพูดถึงเสื้อผ้าวินเทจและของมือสอง การแก้ทรงสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ขนาดไม่พอดีให้กลายเป็นชิ้นที่ตัดเย็บมาอย่างสมบูรณ์แบบได้ พิจารณาการตัดชายกระโปรงหรือกางเกงให้สั้นลง ปรับแก้รอบเอว หรือเพิ่มเกล็ดเพื่อสร้างทรงที่ดูดีขึ้น ช่างตัดเสื้อฝีมือดีสามารถสร้างปาฏิหาริย์กับเสื้อผ้าวินเทจได้
การนำมาใช้ใหม่และอัปไซเคิล
พิจารณาการนำเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองมาใช้ใหม่หรืออัปไซเคิลเพื่อมอบชีวิตใหม่ให้กับมัน เปลี่ยนชุดเดรสเก่าให้เป็นกระโปรง หรือใช้ผ้าวินเทจสร้างเครื่องประดับใหม่ การอัปไซเคิลเป็นวิธีที่ยั่งยืนในการสร้างชิ้นงานที่ไม่เหมือนใครและเป็นส่วนตัว
ความมั่นใจ
ส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในการจัดสไตล์เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองคือความมั่นใจ สวมใส่สิ่งที่คุณรักและอย่ากลัวที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเอง โอบรับลักษณะเฉพาะตัวของเสื้อผ้าวินเทจและปล่อยให้สไตล์ส่วนตัวของคุณเปล่งประกาย
การดูแลของวินเทจและของมือสอง: การถนอมสมบัติของคุณ
การดูแลที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองของคุณ นี่คือเคล็ดลับในการดูแลชิ้นโปรดของคุณ:
การซักอย่างอ่อนโยน
การซักมือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดเสื้อผ้าวินเทจที่บอบบาง ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนและน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรงหรือสารฟอกขาว หากจำเป็นต้องซักเครื่อง ให้ใช้โหมดถนอมผ้าและใส่เสื้อผ้าในถุงตาข่ายซักผ้า ตรวจสอบป้ายดูแลรักษาเสมอสำหรับคำแนะนำเฉพาะ
การจัดเก็บที่เหมาะสม
เก็บเสื้อผ้าวินเทจในที่เย็นและแห้ง ห่างจากแสงแดดโดยตรง ใช้ไม้แขวนเสื้อแบบบุนวมเพื่อป้องกันการยืดหรือรอยยับ หลีกเลี่ยงการเก็บเสื้อผ้าในถุงพลาสติก เพราะอาจกักเก็บความชื้นและทำให้เกิดเชื้อราได้ พิจารณาใช้กระดาษทิชชูไร้กรดเพื่อป้องกันผ้าที่บอบบาง
การซ่อมแซมและฟื้นฟู
จัดการกับการซ่อมแซมหรือฟื้นฟูที่จำเป็นโดยทันที ซ่อมรอยขาด เปลี่ยนกระดุมที่หายไป และซ่อมซิปที่เสีย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสำหรับเสื้อผ้าวินเทจที่บอบบางหรือมีค่า การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมและยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าของคุณได้
การทำความสะอาดโดยมืออาชีพ
สำหรับเสื้อผ้าวินเทจที่บอบบางหรือสกปรกมาก ให้พิจารณาการทำความสะอาดโดยมืออาชีพ เลือกร้านซักแห้งที่เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าวินเทจและใช้วิธีการทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่เป็นพิษ อย่าลืมแจ้งข้อกังวลและคำแนะนำเฉพาะของคุณกับร้านซักแห้ง
มาตรการป้องกัน
ใช้มาตรการป้องกันเพื่อปกป้องเสื้อผ้าวินเทจของคุณจากความเสียหาย หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่บอบบางในสถานการณ์ที่อาจเสี่ยงต่อคราบสกปรกหรือรอยขาด ใช้สารไล่แมลงเพื่อปกป้องขนสัตว์และเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ จากแมลง ตรวจสอบเสื้อผ้าวินเทจของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาสัญญาณของความเสียหายและจัดการกับปัญหาใดๆ โดยทันที
อิทธิพลจากทั่วโลกในสไตล์วินเทจและของมือสอง
สไตล์วินเทจและของมือสองนั้นก้าวข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและประเพณีแฟชั่นที่หลากหลายทั่วโลก นี่คือตัวอย่างบางส่วน:
- กิโมโนญี่ปุ่น: กิโมโนวินเทจเป็นที่ต้องการอย่างสูงเนื่องจากการออกแบบที่ซับซ้อน เนื้อผ้าที่หรูหรา และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สามารถนำมาจัดสไตล์เป็นเสื้อคลุม ชุดเดรส หรือของตกแต่งผนังได้
- ส่าหรีอินเดีย: ส่าหรีวินเทจนำเสนอสีสัน ลวดลาย และพื้นผิวที่หลากหลาย สามารถนำมาดัดแปลงเป็นชุดเดรส กระโปรง หรือผ้าพันคอได้
- ผ้าพิมพ์ลายแอฟริกัน: ผ้าพิมพ์ลายแอฟริกันวินเทจ เช่น อังการาและเคนเต้ มีชื่อเสียงในด้านลวดลายเรขาคณิตที่โดดเด่นและสีสันที่สดใส สามารถนำมาใช้สร้างเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่สะดุดตาได้
- ชุดปักเม็กซิกัน: ชุดปักเม็กซิกันวินเทจได้รับการยกย่องในด้านการออกแบบลายดอกไม้ที่ซับซ้อนและรายละเอียดที่ทำด้วยมือ มักมีสีสันสดใสและลวดลายศิลปะพื้นบ้าน
- สเวตเตอร์สแกนดิเนเวีย: สเวตเตอร์สแกนดิเนเวียสไตล์วินเทจ ซึ่งมักทำจากขนสัตว์หรือเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ เป็นที่รู้จักในด้านพื้นผิวที่อบอุ่นและลวดลายเรขาคณิต เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับตู้เสื้อผ้าในฤดูหนาว
การสร้างตู้เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองของคุณ: คำแนะนำทีละขั้นตอน
นี่คือคำแนะนำทีละขั้นตอนเพื่อช่วยคุณสร้างตู้เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองที่คัดสรรมาอย่างดี:
- กำหนดสไตล์ของคุณ: ระบุความชอบในสไตล์ส่วนตัวของคุณ รวมถึงยุค สี และรูปทรงที่ดึงดูดใจคุณ
- สำรวจสิ่งที่มี: ประเมินตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่ของคุณและระบุช่องว่างหรือชิ้นส่วนที่ขาดหายไป
- ตั้งงบประมาณ: กำหนดจำนวนเงินที่คุณยินดีจะจ่ายสำหรับเสื้อผ้าวินเทจและของมือสอง
- ค้นคว้าข้อมูล: เรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งซื้อขายของวินเทจและของมือสองต่างๆ และระบุสถานที่ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้งในพื้นที่ของคุณหรือทางออนไลน์
- ช้อปอย่างมีกลยุทธ์: ช้อปโดยมีรายการที่ต้องการอยู่ในใจเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อแบบหุนหันพลันแล่น
- ลองและตรวจสอบ: ควรลองสวมเสื้อผ้าก่อนซื้อเสมอ และตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาร่องรอยความเสียหายใดๆ
- ตัดเย็บและแก้ทรง: ลงทุนในการตัดเย็บและแก้ทรงเพื่อให้ได้ขนาดที่พอดีที่สุด
- ดูแลและบำรุงรักษา: ดูแลเสื้อผ้าวินเทจและของมือสองของคุณอย่างเหมาะสมเพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ทดลองและสนุกไปกับมัน: อย่ากลัวที่จะทดลองกับสไตล์ที่แตกต่างกันและแสดงความเป็นตัวของตัวเอง
อนาคตของแฟชั่น: ของวินเทจและของมือสองในฐานะมาตรฐานใหม่
ในขณะที่ความยั่งยืนมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าวินเทจและของมือสองก็พร้อมที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น การเลือกใช้เสื้อผ้ามือสองทำให้เราสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนแนวปฏิบัติที่มีจริยธรรม และสร้างสรรค์สไตล์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร อนาคตของแฟชั่นคือระบบหมุนเวียน และของวินเทจกับของมือสองคือแนวหน้าของการเคลื่อนไหวนี้ มาร่วมกันโอบรับความงดงามและความยั่งยืนของของวินเทจและของมือสอง และสร้างอนาคตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและมีสไตล์ยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน